ดัชนีการพัฒนามนุษย์ ปี 2556 กับความรุ่งโรจน์ของ (โลก) ทางใต้
เฉลิมพล แจ่มจันทร์ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
14 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ เมืองเม็กซิโกซิตี้ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติหรือ UNDP (United Nations Development Programme) ได้เปิดตัวรายงานการพัฒนามนุษย์ฉบับล่าสุด ปี 2556 ในชื่อเรื่อง Human Development Report 2013 เช่นเดียวกับรายงานฉบับปีก่อนๆ ที่มักนำเสนอภายใต้หัวเรื่องเฉพาะที่เป็นประเด็นสำคัญและมีนัยเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การพัฒนามนุษย์ของโลก รายงานฉบับนี้ มาพร้อมกับหัวเรื่อง The Rise of the South: Human Progress in a Diverse World ซึ่งมีความหมายประมาณว่า “ความรุ่งโรจน์ของทางใต้: ความก้าวหน้าของมนุษย์ในโลกที่หลากหลาย” โดยมีประเด็นที่มาจากกระแสการพัฒนาและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงอย่างต่อเนื่องของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเขตโลกทางใต้ โดยเฉพาะ 3 ประเทศใหญ่ จีน บราซิลและอินเดีย รวมถึงอีกหลายประเทศซึ่งมีโอกาสและศักยภาพที่สูงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะต่อจากนี้ เช่น เม็กซิโก แอฟริกาใต้ และบางประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งถูกกล่าวถึง คือ ประเทศไทย และอินโดนีเซีย
ความรุ่งโรจน์ (ทางเศรษฐกิจ) ของโลกทางใต้มาพร้อมๆ กับความซบเซาของโลกทางเหนือในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งครองความเป็นมหาอำนาจและผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกมาตลอดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งกำลังประสบวิกฤตปัญหาและความเปราะบางทางเศรษฐกิจ ทั้งในภาคการเงิน ภาคประกอบการ และภาครัฐ มาอย่างต่อเนื่องตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา ข้อความ (message) สำคัญที่รายงานฉบับนี้พยายามจะสื่อก็คือ “การเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถถูกตีความได้ว่า การพัฒนามนุษย์ของประเทศจะก้าวหน้าตามไปด้วยโดยอัตโนมัติ” จากการจัดอันดับดัชนีการพัฒนามนุษย์ ปี 2556 นี้ จีน บราซิลและ อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวของ GDP
สูงที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในขณะนี้ ยังคงมีการพัฒนามนุษย์ที่อยู่ในระดับซึ่งต้องพัฒนาต่อไปอย่างมาก จาก 187 ประเทศทั่วโลก HDI ของจีนอยู่ในอันดับที่ 101 บราซิลดีกว่าเล็กน้อยในอันดับที่ 85 และอินเดีย ยังค่อนข้างน่าเป็นห่วงอยู่ในอันดับที่ 136
ภายใต้กรอบแนวคิดการพัฒนามนุษย์ของ UNDP ดัชนี HDI เป็นดัชนีชี้วัดระดับการพัฒนามนุษย์ หรือ พูดง่ายๆ ว่า การพัฒนาคนในแต่ละประเทศซึ่งพิจารณาองค์ประกอบ ใน 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านศักยภาพ และด้านคุณภาพ (ชีวิต) โดยองค์ประกอบแรก ด้านสุขภาพ ชี้วัดจากความยืนยาวของการมีชีวิตอยู่ของคนในประเทศด้วยจำนวนปีของอายุคาดเฉลี่ย (life expectancy) สำหรับองค์ประกอบที่สอง การศึกษาถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในกระบวนการการพัฒนาทุนมนุษย์ ดังนั้น ด้านศักยภาพ จึงชี้วัดจากจำนวนปีเฉลี่ยและจำนวนปีคาดหมายของการได้รับการศึกษาของคนในประเทศ องค์ประกอบที่สาม ด้านคุณภาพชีวิต มาตรฐานการครองชีพของคนในประเทศชี้วัดเฉพาะในมิติทางเศรษฐกิจโดยดูจากระดับรายได้ประชาชาติต่อหัว (GNI per capita)
การเติบโตทางเศรษฐกิจและการขยายตัวอย่างมากของ GDP ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในซีกโลกทางใต้ อาจทำให้รายได้ประชาชาติต่อหัวและภาพรวมมาตรฐานคุณภาพชีวิตของคนในประเทศดีขึ้น ซึ่งเป็นแรงผลักที่ดีต่อการเคลื่อนระดับการพัฒนามนุษย์ในประเทศเหล่านั้นให้สูงยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่รายงานฉบับนี้ต้องการสื่อถึงประเทศเหล่านั้นก็คือ การให้ความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยกัน โดยเฉพาะในเรื่องการบริการทางสุขภาพและระบบหลักประกันทางสังคม โอกาสทางการศึกษา คุณภาพของระบบการศึกษาซึ่งเป็นองค์ประกอบปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญของการพัฒนามนุษย์ของประเทศ อีกเรื่องที่สำคัญ คือ การตระหนักถึงการกระจายผลพวงจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นให้ตกถึงประชาชนทุกกลุ่มในประเทศอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม
นัยเชิงนโยบายที่สำคัญ สำหรับประเทศกำลังพัฒนาเพื่อรักษาแรงผลักและกระแสเชิงบวกในการพัฒนามนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น ที่ให้ไว้ในตอนท้ายของรายงานมีอยู่ใน 4 เรื่องด้วยกัน คือ 1) การสร้างให้เกิดความเท่าเทียมเป็นธรรมมากขึ้นในสังคม (enhancing equity) โดยเฉพาะ ความเท่าเทียมทางการศึกษา ทางสุขภาพ ทางรายได้ และความเท่าเทียมทางเพศ 2) การสร้างเสริมโอกาสในการแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วม (enabling voice and participation) ทั้งทางการเมืองและทางสังคมของคนทุกคน 3) การเตรียมตัวเพื่อปรับตัวและรับมือกับแรงกดดันจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม (confronting environmental pressures) โดยเฉพาะผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ความตึงเครียดจากปัญหาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและความขาดแคลนของทรัพยากร 4) การจัดการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางประชากร (managing demographic changes) ทั้งในประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงของการได้รับการปันผลทางประชากร (demographic dividend) ที่สัดส่วนประชากรขนาดใหญ่อยู่ในวัยกำลังแรงงาน (โดยมากในกลุ่มประเทศในแถบแอฟริกาตอนใต้ : Sub-Saharan Africa) และประเทศที่ผ่านช่วงเวลาดังกล่าวมาแล้วโดยกำลังก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุที่สัดส่วนพึ่งพิงทางประชากรเพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก) ว่าทำอย่างไรให้ภายใต้โครงสร้างประชากรที่กำลังเปลี่ยนแปลงนั้น ประเทศยังสามารถรักษาระดับการผลิต การพัฒนามนุษย์ การสร้างและใช้ประโยชน์จากศักยภาพมนุษย์ที่มีอยู่ไม่ว่าจะในวัยใดให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้ง 4 ประเด็นนี้ ถือเป็นการบ้านสำคัญที่รายงานการพัฒนามนุษย์ฉบับล่าสุดได้ฝากไว้ ให้กับประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะกลุ่มในซีกโลกทางใต้ที่กำลังเติบโตไปสู่ความรุ่งโรจน์นำไปคิดและดำเนินการต่อ
เพื่อเป็นการทิ้งท้าย เมื่อพูดถึง The Rise of the South ผู้เขียนเข้าใจว่า น่าจะเหมารวมถึง “เรา” 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนอยู่ในนั้นด้วย จึงขอนำผลการจัดการอันดับดัชนีการพัฒนามนุษย์ ปี 2556 ของ “เรา” มาให้ผู้อ่านเป็นการบ้านไปคิดกันต่อว่า เมื่อจัดเรียงตามค่าดัชนี และองค์ประกอบของดัชนีในแต่ละด้านแล้ว ประเทศสมาชิกแต่ละประเทศอยู่กันตรงไหน อันดับใดบ้าง และเรายังคงมีความแตกต่างของระดับการพัฒนามนุษย์ในด้านใด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สมาชิกอาเซียนทุกประเทศต้องช่วยกัน เพื่อลดความแตกต่างนี้ และร่วมมือกันพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นสู่ความรุ่งโรจน์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปพร้อมๆ กัน
ผลการจัดอันดับดัชนีการพัฒนามนุษย์ ปี 2556 (HDI 2013) และองค์ประกอบแต่ละด้านในกลุ่มประเทศอาเซียน
ประเทศ | อันดับค่า HDI ใน 187 ประเทศทั่วโลก |
องค์ประกอบของดัชนีการพัฒนามนุษย์ | |||
อายุคาดเฉลี่ย (ปี) | จำนวนปีเฉลี่ย ที่ได้รับการศึกษา (ปี) |
จำนวนปีที่คาดหมาย ว่าได้รับการศึกษา (ปี) |
รายได้ประชาชาติ ต่อหัว (2005 PPP$) |
||
สิงคโปร์ | 18 | 81.2 | 10.1 | 14.4 | 52,613 |
บรูไน | 30 | 78.1 | 8.6 | 15 | 45,690 |
มาเลเซีย | 64 | 74.5 | 9.5 | 12.6 | 13,676 |
ไทย | 103 | 74.3 | 6.6 | 12.3 | 7,722 |
ฟิลิปปินส์ | 114 | 69 | 8.9 | 11.7 | 3,752 |
อินโดนีเซีย | 121 | 69.8 | 5.8 | 12.9 | 4,154 |
เวียดนาม | 127 | 75.4 | 5.5 | 11.9 | 2,970 |
กัมพูชา | 138 | 63.6 | 5.8 | 10.5 | 2,095 |
สปป.ลาว | 138 | 67.8 | 4.6 | 10.1 | 2,435 |
เมียนมาร์ | 149 | 65.7 | 3.9 | 9.4 | 1,817 |
โลก | 70.1 | 7.5 | 11.6 | 10,184 |