นานาสาระประชากร

อันเนื่องมาจากวันแม่

ปราโมทย์ ประสาทกุล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

เพิ่งผ่านวันแม่มาได้สามวัน ผมได้เข้าไปอ่านข้อความที่เพื่อนส่งต่อกันในสื่อสังคมอินเทอร์เน็ตเฟซบุ๊กที่คนไทยกำลังนิยมกันนักหนา ข้อความที่เพื่อนปากจัดคนหนึ่งเขียนไว้ในหน้าเฟซบุ๊กของเธอเมื่อวันแม่ มีว่า “แล้ววันแม่ก็กำลังจะผ่านไป อย่าลืมรักแม่อย่างต่อเนื่องกันด้วยนะจ๊ะ นึกถึงแม่ รักแม่กันจะเป็นจะตายราวกับอุปาทานหมู่ก็วันที่ 12 สิงหานี่แหละ”

            ขอบอกว่าเพื่อนปากจัดคนนี้เป็นคนรักแม่มาก เธอมีลูกที่น่ารักสองคน และทั้งแม่ ทั้งลูก รวมทั้งสามี ก็อยู่ในเครือข่ายเฟซบุ๊กด้วยกันทั้งหมด ตัวแม่เขียนไป ลูกสาวก็เขียนให้ความเห็นต่อมาเป็นรายแรก

            “นั่นสิ แห่กันพาแม่ไปกินข้าววันแม่ จนสงสัยว่าวันอื่น เขาไม่หาข้าวให้แม่กินกันหรือไงนะ”

            (ต้องเขียนไว้ในวงเล็บตรงนี้ว่า ลูกสาวเพื่อนคนนี้ให้รถป้ายแดงเป็นของขวัญวันเกิดพ่อเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ในโอกาสวันแม่ปีนี้ เธอสร้างความตื่นเต้นให้กับเพื่อนๆ รุ่นผม ด้วยการซื้อแหวนเพชรเป็นของขวัญให้แม่ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง)

            ช่างเถอะ... ลูกๆ ใครเขาจะพาแม่ไปกินข้าววันไหน จะเป็นเฉพาะวันแม่ หรือวันลูก ก็ช่างเขาเถอะ อย่างน้อยก็แสดงว่าลูกๆ ยังรักแม่ มีวันแม่ก็ดี แม่จะได้กินข้าวกับลูกสักวัน

            ผมโชคดีที่ยังมีแม่ และผมก็แน่ใจว่าแม่ของผมต้องรู้สึกโชคดีที่มีลูกอย่างผม ผมไปเยี่ยมแม่ ไปกอดแม่ (เกือบ) ทุกอาทิตย์ วันแม่ปีนี้ ผมไม่ได้ไปหาแม่ในวันแม่ หากแต่ไปวันสุกดิบ คือก่อนวันแม่หนึ่งวัน ผมไม่ได้พาแม่ออกไปกินข้าวนอกบ้าน   หากแต่นั่งกินข้าวกลางวันอยู่กับแม่ที่บ้าน น้องสาวซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นผู้สูงอายุและเป็นผู้คอยดูแลแม่เป็นผู้เตรียมอาหาร กินข้าวมื้อนี้ไม่ได้ฉลองวันแม่ ผมกินข้าวกลางวันกับแม่เป็นประจำ (เกือบ) ทุกอาทิตย์

            ในโอกาสวันแม่ปีก่อน ผมแต่งกลอนสั้นๆ บทหนึ่งใส่ไว้ใต้รูปดอกมะลิในเฟซบุ๊กของผม

                        “ไม่แต่งเติมเสริมต่อเยินยอแม่         ไม่แสร้งแผ่เผยใจให้ใครเห็น
รักเทิดทูนเท่านี้อย่างที่เป็น               บูชาเช่นแม่พระประจำใจ”

            แม่ร้อยปี ของมหาวิทยาลัยมหิดล

            มหาวิทยาลัยมหิดลจัดงานวันแม่เป็นประจำทุกปี ทุกปีจะคัดเลือกแม่ประเภทต่างๆ เพื่อรับรางวัล มีอาทิ แม่ร้อยปี แม่สู้ชีวิต แม่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แม่จิตใสใจสะอาด

            ผมมีส่วนร่วมงานวันแม่ของมหาวิทยาลัยโดยเป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือก “แม่ร้อยปี” มานานกว่าสิบปีแล้ว
แม่ร้อยปีของมหิดล คือ แม่ที่มีอายุเกินกว่าหนึ่งร้อยปีที่มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ การเป็นประธานคัดเลือกแม่ร้อยปีทำให้ผมได้มีโอกาสเดินทางไปพบแม่ผู้มีอายุเกินกว่าร้อยปีด้วยตัวเอง ปีละสองสามคน และมีโอกาสได้รับรู้ข้อมูลจากแม่ที่มี
ผู้ส่งรายชื่อมาให้คัดเลือกอีกปีละหลายสิบคน
การได้ทำงานเรื่องแม่ร้อยปี ผมถือว่าเป็นมงคล คนเราจะมีอายุยืนถึง 100 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่มีอายุยืนยาวขนาดนั้นจะต้องผ่านความเสี่ยงต่อการเป็นโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ทั้งโรคติดเชื้อจากการกิน การอยู่และสภาพแวดล้อม ทั้งโรคที่เกิดจากอวัยวะของร่างกายที่เสื่อมลงตามสังขาร ทั้งอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ในชีวิตประจำวัน เสี่ยงตายสารพัดกว่าที่จะได้ชื่อว่าเป็น “ศตวรรษิกชน” ถ้าไม่แน่จริง คนเราคงไม่มีชีวิตอยู่นานถึงร้อยปี และถ้าไม่มีบุญวาสนาจริงๆ ก็คงไม่มีิอายุยืนยาวโดยที่ยังมีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจอย่างนี้

            ผมคิดถึงคุณยายอนงค์ องคสิงห์ อายุ 104 ปี (พ.ศ. 2550) ที่พวกเราเห็นพ้องต้องกันว่าท่านเป็นผู้มีอายุเกิน 100 ปีที่มีสุขภาพทั้งกายและใจดีเลิศ ยังเคลื่อนไหวทั้งภายในและนอกบ้านได้อย่างคล่องแคล่ว ท่านชวนเราเดินชมสวนนอกบ้าน หูและตาของท่านไม่มีปัญหาเลย ยังเขียนและอ่านหนังสือได้สะดวก ได้ยินชัดเจนโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยฟัง แม้พวกเราจะคุยกับท่านด้วยเสียงดังระดับปรกติท่านก็ได้ยิน ท่านยังสีไวโอลินได้ แต่วันนั้น ท่านสีไวโอลีนได้ไม่ราบรื่นนักด้วยเหตุผล “อ่อนซ้อมไปหน่อย” ท่านมีความจำดีเยี่ยม จำได้แม้กระทั่งชื่อของพวกเราที่พูดคุยกับท่าน ท่านฟังวิทยุ ดูทีวีเป็นประจำ ตอนเช้ามืดของทุกวัน ท่านตื่นขึ้นมาชงอาหารเสริมประเภทธัญญพืชรับประทานด้วยตนเอง

            เมื่อสัมภาษณ์เสร็จตอนค่ำของวันนั้น คุณยายอนงค์ได้ขอให้หลานพาพวกเราไปเลี้ยงอาหารค่ำที่ภัตตาคารอาหารทะเลใกล้บ้าน คุณยายไปร่วมรับประทานกับพวกเราด้วย ท่านรับประทานอาหารได้ทุกอย่าง ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา เรียกว่าท่านทานได้ทุกจานที่สั่งมาในมื้อนั้น ท่านมีความสุขที่ได้พูดคุยกับเราและลูกหลาน

            ท่านผู้หญิงยศวดี บูรณสัมฤทธิ์ อายุ 102 ปี (พ.ศ. 2552) เป็นผู้มีอายุเกินร้อยปีอีกท่านหนึ่งที่พวกเราชื่นชม อายุมากขนาดนี้ท่านยังทำงาน ท่านต้องออกไปให้โอวาทแก่นักเรียนอัมพรไพศาล (ปากเกร็ด นนทบุรี) ที่หน้าเสาธงทุกเช้า และยังนั่งทำงานในสำนักงานอำนวยการที่โรงเรียนของท่าน เราค่อนข้างมั่นใจว่าท่านน่าจะเป็นคนทำงานที่มีอายุสูงที่สุดในโลก ท่านผู้หญิงยศวดี มีความจำเป็นเลิศ ท่านยังฝึกสมองด้วยการเล่นครอสเวิร์ดภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ

            พูดถึงความจำของแม่ร้อยปีหลายท่านที่ผมได้พบมาแล้วก็ให้นึกอายตัวเอง ผมจัดเป็นเพียงแค่ผู้สูงอายุขั้นประถม หรือผู้สูงอายุวัยต้นๆ แต่ก็มีอาการลืมนั่นลืมนี่ได้ไม่เว้นแต่ละวัน ลืมชื่อคน ลืมชื่อเรียกสิ่งของ ลืมศัพท์บางคำในภาษาเขมร เวียดนาม และบาฮาซาอินโดนีเซียที่เคยรู้ แม้กระทั่งศัพท์ภาษาไทยเองบางครั้งก็นึกบางคำไม่ออกเหมือนกัน สงสัยต้องไปท่องคาถากันลืมที่คุณยายทิบ ศรีแจ้ แห่งเพชรบุรี อายุ 105 ปี (พ.ศ. 2555) ได้ให้ไว้เมื่อปีกลาย คุณยายทิบ ให้ท่องคาถาดังนี้ “นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 ครั้ง) อิติปิโสภะคะวา ไหว้พระเสาร์หนึ่งองค์ ขอให้อย่าลืมหลง จงไปนิพพาน ให้พบดวงแก้ว ให้แคล้วดวงมาร นมัสการธิดามณี อิติปิโสภะคะวา ไหว้พระเสาร์สององค์ ขอให้อย่าลืมหลง จงไปนิพพาน ให้พบดวงแก้ว ให้แคล้วดวงมาร นมัสการธิดามณี....” คุณยายทิบบอกให้ท่องไหว้พระเสาร์ไปจนครบสิบองค์ทุกวัน รับประกันไม่หลงลืมแน่ๆ

            คิดถึงคุณยายถวิล ลิ้มจำรูญ อายุ 103 ปี (พ.ศ. 2554) คนตลาดพลู และเคยมีอาชีพขายหมากพลูจริงๆ แต่ก่อนคนไทยเคี้ยวหมากกันมาก หมากต้องกินกับใบพลู หมากกับพลูจึงเป็นผลิตผลของพืชที่อยู่คู่กัน คุณยายถวิลเล่าว่า การนับหมากเขานับเป็นมือ มือละ 5 ลูก ส่วนการนับใบพลู เขานำใบพลูมาเรียงซ้อนกัน 20 ใบนับเป็นหนึ่งเรียง และ 4 เรียงนับเป็นหนึ่งกำ

            ปี พ.ศ. 2556 นี้ ผมได้เดินทางไปพบแม่ร้อยปีสองราย รายแรก คุณยายหนู เปรมศิริ อายุ 104 ปี ที่บางกรวย นนทบุรี
คุณยายหนูสวดมนต์ อิติปิโสภะคะวา ...ให้ฟัง เท่านั้นยังไม่พอ คุณยายได้สาธิตการหุงข้าวด้วยหม้อข้าวไฟฟ้าให้พวกเราดู
เริ่มตั้งแต่ตวงข้าวด้วยถ้วยตวงใส่หม้อ ซาวข้าวหนึ่งครั้ง คุณยายหนูเสียบปลั๊กและกดสวิทซ์ด้วยตนเอง ได้ยินว่าคุณยายใช้เครื่องซักผ้าได้ด้วย เรียกได้ว่าคุณยายหนูช่วยตัวเองได้ทุกเรื่อง จึงเกือบไม่เป็นภาระต้องพึ่งพิงลูกหลานในการดูแล

            แม่ร้อยปีอีกท่านหนึ่งที่ผมมีโอกาสไปเยี่ยมในปีนี้ คือ คุณยายย้วน รอดอุไร อายุ 101 ปี ชาวบางปลาสร้อย ชลบุรี พอคุ้นกันแล้ว คุณยายย้วนสนุกมาก รำวงด้วยท่วงท่าอ่อนช้อยสวยงาม คุณยายจูบแก้มผมฟอดใหญ่ ชวนผมกินข้าวกับคะน้าไฉ่
ซึ่งทีมงานถ่ายทำวิดิโอและภาพนิ่งของพวกเราขอให้คุณยายแสดงความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง เช่น กินข้าวเอง เดินเอง ตอนที่เราจะลากลับ คุณยายแสดงอาการอาวรณ์อาลัยชัดเจน เหมือนกำลังสนุกสนานกันแล้วจู่ๆ พวกเราก็จะหนีจากไป ผมคิดว่าแม่ร้อยปีที่พวกเราได้ไปพบทุกคนรู้สึกอย่างนี้เมื่อเราต้องอำลาจากกัน

            คุณย่าทรัพย์ สาระเกษตริน อายุ 108 ปี (พ.ศ. 2550) พูดเมื่อพวกเราจะจากลาว่า “มีคนมาก็สนุกสนานกันไป ไม่มีใครมาก็นอน”

            แม่ร้อยปีทุกคนที่ผมไปพบมามีคุณลักษณะเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ความเป็นคนอารมณ์ดี ลูกหลานของท่านมักพูดว่าคุณยาย คุณทวด ใจดี แม่ร้อยปีหลายคนยังสวดมนต์ได้ หลายคนยังจำบทกลอน คำคล้องจองได้ หลายคนชอบรำฟ้อน ผมนึกเสมอว่าท่านผู้มีชีวิตอยู่มาได้ถึงร้อยปีอย่างนี้ ต้องเป็นคนใจดี ลูกหลานและคนรอบตัวจึงรักและคอยช่วยดูแล ถ้าใจร้าย ปากร้าย ลูกหลานที่ไหนจะเต็มใจดูแล แม่ร้อยปีที่ผมไปพบจะอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกหลานคอยดูแลให้ความรัก ผมได้บทเรียนสอนใจตัวเองว่า ถ้าเราอยากมีอายุยืนอยู่นานๆ แล้วยังมีคนคอยดูแล เราก็ต้องมีเมตตากรุณากับลูกหลานและคนรอบข้างตั้งแต่ยังไม่แก่นั่นเทียว

            ผมชอบรับพรจากคนร้อยปี “ขอให้อายุยืนเหมือนยาย อายุเท่าๆ ยาย” “อายุยืน ร่างกายแข็งแรง มีความสุข สดชื่นแจ่มใสตลอดไป” “บุญรักษา อย่าเจ็บอย่าไข้” แล้วก็บทอวยพรของคุณยายทิบ “นึกแก้วให้ได้แก้วกอง นึกทองให้ทองไหลมา นึกอะไรก็ให้ได้ดังใจ ขอให้ใจเย็นดั่งแม่น้ำคงคา ขอให้เป็นหมอเป็นครู เป็นไปทุกชาติ ทุกชาติไป”

ลูกรัก...ให้แหวนเพชรแม่

            ขอย้อนกลับมาเล่าเรื่องลูกของเพื่อนที่ให้ของขวัญเป็นแหวนเพชรแก่แม่เนื่องในโอกาสวันแม่ ความจริงผมเคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับลูกเพื่อนคนนี้มาแล้วในประชากรและการพัฒนา ฉบับก่อน เธอเพิ่งให้ของขวัญวันเกิดพ่อเป็นรถซีวิคป้ายแดง ปีก่อนๆ โน้น แม่ก็เคยได้รับรถป้ายแดงเป็นของขวัญวันเกิดมาแล้วเช่นกัน

            ลูกสาวเพื่อนคนนี้ประกอบอาชีพที่มีรายได้ดี คือเป็นทันตแพทย์ เธอเป็นโสดจึงไม่มีภาระที่จะต้องเลี้ยงดูครอบครัว ไม่ต้องมีลูกที่ต้องห่วงกังวล ผมชื่นชมเธอตรงที่เธอมีใจที่จะให้กับพ่อแม่ ผมไม่ได้ตื่นเต้นกับมูลค่าราคาสิ่งของที่เธอให้พ่อแม่เป็นของขวัญ ไม่ว่าจะเป็นรถป้ายแดง แหวนเพชร แต่ใจกตัญญูนี่สิสำคัญ ผมจึงแต่งกลอนไว้บทหนึ่งเมื่อได้เห็นรูปแหวนเพชรที่เธอให้แม่เนื่องในวันแม่ปีนี้

                        ธำมรงค์เรือนนี้ มีค่านัก       เพราะใช้รักถักผจงเป็นวงแหวน
ประกายเพชรเก็จพร่างสว่างแดน      เสมอแม้นยึดมั่นกตัญญู
ลูกรักแม่อย่างที่เป็นอยู่่เช่นนี้           กี่ร้อยปี ธำมรงค์จะคงอยู่
โลกสดสวยด้วยธรรมคอยค้ำชู         แม่ลูกคู่รักกัน นิรันดร

            ถ้าเพียงลูกๆ มีใจกตัญญู และแสดงกตเวทีบ้างตามสมควรตามอัตภาพของตน สังคมสูงวัยของเราก็จะสดสวยงาม “มาตาปิตุอุปัฏฐานัง เอตัมมัง คะละมุตตะมัง บำรุงมารดาบิดา นี้เป็นมงคลอันอุดม” - หนึ่งในมงคล 38 ธรรมอันนำมาซึ่งความสุขความเจริญ


คุณยายหนู และคุณยายย้วน แม่ร้อยปีมหิดล 2556

อ.ปราโมทย์ และคุณยายย้วน

Since 25 December 2012