ประเด็นประชากรที่น่าสนใจ
ปฏิบัติการมีลูกเพื่อชาติในสิงคโปร์
มนสิการ กาญจนะจิตรา This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
เมื่อกลางปีที่ผ่านมานี้ โฆษณาทางโทรทัศน์ของลูกอมยี่ห้อหนึ่งในสิงคโปร์ ได้ลุกขึ้นมารณรงค์ให้ชาวสิงคโปร์ทำหน้าที่พลเมืองดีด้วยการ...มีลูก
โฆษณาชิ้นนี้ใช้โอกาสวันชาติของสิงคโปร์ วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ออกสื่อโฆษณาที่มีเนื้อเพลงชักชวนให้ในวันชาตินี้นอกเหนือจากการฉลองด้วยการดูพาเหรด โบกธง และดูพลุแล้ว หน้าที่ของพลเมืองอีกอย่างคือการฉลองด้วยการมีลูกกัน
ทุกวันนี้สิงคโปร์กำลังประสบปัญหาอัตราการเพิ่มประชากรอันเนื่องมาจากอัตราเจริญพันธุ์รวมที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ แม้เศรษฐกิจของประเทศสิงคโปร์กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่การพัฒนาทางเศรษฐกิจนั้นต้องพึ่งกำลังคนเป็นสำคัญ หากแนวโน้มกำลังแรงงานของสิงคโปร์ในอนาคตมีขนาดเล็กลง การเจริญเติบโตของประเทศอาจมีสิทธิ์หยุดชะงักได้
ปัจจุบันแนวโน้มชาวสิงคโปร์มีลูกกันน้อยลงมาก หากแบ่งตามเชื้อชาติแล้วจะพบว่าคนสิงคโปร์เชื้อสายจีนมีลูกน้อยที่สุด ตามด้วยเชื้อสายอินเดีย และเชื้อสายมาเลย์ คือมีอัตราเจริญพันธุ์รวมที่ 1.08, 1.09 และ 1.64 ตามลำดับ ซึ่งถือว่าต่ำกว่าระดับทดแทนมาก โดยเฉพาะคนสิงคโปร์เชื้อสายจีนและอินเดีย
http://app.sdn.sg/VDayComic.aspx
รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับปัญหาการลดลงของกำลังแรงงานมาก โดยวิธีการแก้ปัญหาที่รัฐบาลเล็งเห็นมีสองทางหลัก ทางที่หนึ่งคือ การสนับสนุนให้มีแรงงานข้ามชาติเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นการขยายฐานกำลังแรงงาน แต่วิธีนี้มักโดนโจมตีจากหลายฝ่าย บ้างก็ว่าวิธีนี้ช่วยแก้ปัญหาได้เพียงในระยะสั้นเท่านั้น บ้างก็ว่าแรงงานต่างชาติเหล่านี้จะมาแย่งงานและเบียดเบียนทรัพยากรของชาวสิงคโปร์ บ้างก็กลัวว่าอีกหน่อยคนสิงคโปร์หันไปทางไหนก็จะเจอแต่แรงงานต่างชาติ แล้ววัฒนธรรม ประเพณีสืบทอดของชาวสิงคโปร์จะถูกกลืนหายไป
ดังนั้นรัฐบาลจึงพยายามพึ่งแนวทางที่สองในการแก้ปัญหา นั่นคือการสนับสนุนให้ประชาชนชาวสิงคโปร์มีลูกกันมากขึ้น ซึ่งแนวทางนี้รัฐบาลมองว่าเป็นแนวทางที่จะแก้ปัญหาได้ยั่งยืนกว่าการพึ่งแรงงานต่างชาติและที่สำคัญจะได้เป็นการสร้างคลื่นของคนรุ่นใหม่ที่เป็นชาวสิงคโปร์อย่างแท้จริง
ประเทศสิงคโปร์จึงเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มอัตราเจริญพันธุ์อย่างเต็มตัว โดยมีหลายมาตรการเพื่อช่วยจูงใจและอำนวยความสะดวกให้แก่ครอบครัวให้มีลูก ทั้งการให้เงินแก่เด็กแรกเกิดประมาณ 100,000 บาทต่อลูกคนแรกหรือลูกคนที่สอง และประมาณ 150,000 บาทต่อลูกคนที่สามหรือลูกคนที่สี่ รวมทั้งการช่วยสมทบเงินออมเพื่อเลี้ยงลูก การอนุญาตให้แม่ลาคลอดโดยที่ยังคงได้รับเงินเดือนเต็มได้ถึง 4 เดือน และการพัฒนาศูนย์รับเลี้ยงเด็ก เป็นต้น
แต่ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไม่ได้มุ่งเน้นไปยังคู่สมรสแล้วเท่านั้น แต่ยังมีนโยบายเพื่อช่วยสนับสนุนให้หนุ่มสาวจับคู่และแต่งงานกันเพื่อจะได้มีลูกกันอีกด้วย เรียกได้ว่ารัฐบาลพยายามส่งเสริมการเกิดจากทุกด้านทุกมุมจริงๆ ซึ่งปัจจุบันหนุ่มสาวชาวสิงคโปร์ก็แต่งงานกันน้อยลง โดยยังมีถึงร้อยละ 44 ของผู้ชายอายุ 30-34 ปีที่ยังครองโสดอยู่ ในขณะที่สาวๆ ในช่วงอายุเดียวกันก็มีถึงร้อยละ 31 ที่ยังเป็นโสด
วิธีการหนึ่งเพื่อส่งเสริมให้หนุ่มสาวมาจับคู่กันนั้น รัฐบาลได้ตั้งหน่วยงานเครือข่ายพัฒนาสังคม ที่ทำหน้าที่หลักคือการช่วยให้คนโสดได้มาเจอกันผ่านกิจกรรมสังสรรค์ต่างๆ เช่น ทานข้าว ดื่มไวน์ เล่นกีฬา เรียนเต้นรำ เรียนทำอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับเปลี่ยนทัศนคติการหาคู่ของหนุ่มสาวที่ยังโสดอีกด้วย เช่น การทำชุดการ์ตูนที่ช่วยกระตุ้นให้คนโสดกล้าที่จะเปิดใจลองคบหาคนใหม่ๆ ดูแต่ความพยายามทั้งหมดนี้ไม่ได้ส่งผลให้ชาวสิงคโปร์มีลูกกันมากขึ้นเท่าไหร่นัก เงินที่รัฐบาลให้เพื่อสนับสนุนการมีลูก
ก็ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนเรื่องหน้าที่การงาน สาวๆ สิงคโปร์ก็มองว่า คนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวเหนือการงานมีโอกาสก้าวหน้าในงานน้อย และที่สำคัญที่สุดคือ ค่านิยมที่เปลี่ยนไป หลายคนให้คุณค่ากับหน้าที่การงานมากกว่าการสร้างครอบครัว ทั้งยังชื่นชอบการมีอิสระ การได้ใช้เวลาว่างในการไปท่องเที่ยวโดยที่ไม่ต้องมีลูกมาเป็นภาระ
คงต้องติดตามกันต่อไปแล้วล่ะค่ะว่า สิงคโปร์จะมีมาตรการอะไรใหม่ๆ หรือไม่ เพื่อจัดการกับปัญหานี้ในอนาคต