ประชากรต่างแดน

อยู่อย่าง.........อเมริกันอินเดียนชน

อมรา สุนทรธาดา This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

     สำมะโนประชากรปี 2553 ระบุว่าชนพื้นเมืองเชื้อสายอินเดียนในสหรัฐอเมริกา มีราว 5 ล้านคน หรือประมาณ ร้อยละ 1.7 ของประชากรทั้งหมด ในจำนวนนี้ ประมาณ 2.9 ล้านคน สืบเชื้อสายตรงจากบรรพบุรุษอินเดียนที่มีถิ่นฐานเดิมในอเมริกาและอลาสกา อีกประมาณครึ่งหนึ่งเป็นประชากรที่มีเชื้อสายจากหลายเชื้อชาติ สืบเนื่องจากในอดีตกว่า 200 ปี ที่ทวีปอเมริกาเป็นดินแดนที่ชาวยุโรปย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์มีเรื่องราวการสู้รบเพื่อแย่งชิงดินแดน เพื่อปกป้องชาติพันธุ์ และวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองเดิมที่ตั้งถิ่นฐานมาก่อนที่คนผิวขาวเข้ายึดครอง ข้อที่น่าสังเกตคือจำนวนประชากรเชื้อสายอินเดียนดั้งเดิมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อัตราการเพิ่มประชากร ประมาณ ร้อยละ 27 ระหว่างปีสำมะโนประชากร 2543-2553 หรือมีประชากรเพิ่มขึ้นราว 1 ล้านคน ซึ่งมากกว่าการเพิ่มของประชากรทั้งประเทศ ที่เพิ่มขึ้นเพียง ร้อยละ 10 ในช่วงเวลาเดียวกัน  คาดว่าภายในปี 2593 หรืออีก 40ปีข้างหน้า ประชากร จะเพิ่มจำนวนถึง 3 ล้านคน

     ประชากรเชื้อสายอินเดียน ตั้งรกรากอยู่ใน 15 รัฐ โดยเฉพาะที่รัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐอลาสกา เป็นรัฐที่มีประชากรดังกล่าวอาศัยหนาแน่นที่สุด รัฐบาลกลางให้การรับรองสถานภาพและสิทธิทางการเมืองเท่าเทียมกับพลเมืองอเมริกัน ปัจจุบันมีสมาพันธ์รวม 565 แห่ง และมีเขตอนุรักษ์เชิงวัฒนธรรม รวม  334 แห่ง ในจำนวนกลุ่มชาติพันธุ์ ดังกล่าว มี 8 กลุ่มชาติพันธุ์ที่มีขนาดประชากร ตั้งแต่ 8 หมื่นคน ถึง 1 แสนคน ประชากรเชื้อสายอินเดียนดั้งเดิมสามารถสื่อสารได้อย่างน้อย 2 ภาษา คือ ภาษาประจำเผ่าและภาษาอังกฤษ แม้ว่าการอนุรักษ์ภาษาดั้งเดิมของประชากรเชื้อสายอินเดียนนั้นเข้มข้นมาก แต่กระแสที่ไม่อาจต้านทานนั้นแรงกว่าหลายเท่านัก เนื่องจากรัฐบาลกลางมีมาตรการโน้มน้าวให้เลิกพูดภาษาดั้งเดิมด้วยการสนับสนุนให้เยาวชนได้รับการศึกษาในโรงเรียนประจำเพื่อให้การใช้ภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างเข้มข้นจนลืมภาษาตนเอง จากการสำรวจ โครงการ National Geography Society’s Enduring Voices พบว่าภาษาดั้งเดิมของชนกลุ่มน้อยถูกกลืน 1 ภาษาต่อสัปดาห์ และประมาณการว่า ภายในปี 2643 ภาษาชนกลุ่มน้อยทั่วโลกราว 7, 000 ภาษา จะหายไปหรือไม่มีการใช้อีกต่อไป เนื่องจากภาษาเหล่านั้นเป็นภาษาพูดไม่มีภาษาเขียน หรือการจดบันทึกเพื่อการจดจำสำหรับชนรุ่นหลัง

     การต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ของชนเผ่าเชื้อสายอินเดียนดั้งเดิมในอดีตตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 จนถึง ศตวรรษที่ 19 สร้างความสูญเสียบาดหมางอย่างใหญ่หลวงระหว่างผู้ที่ย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่และผู้ที่อยู่มาก่อน จนกระทั่งประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน เห็นความสำคัญของนโยบายการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แม้จะต่างวัฒนธรรม ก็เป็นสิ่งจำเป็น และประธานาธิบดีโทมัส เจฟเฟอร์สัน สานต่อเจตนารมย์ โดยยึดแนวทาง 6 ประการที่ประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตันเริ่มต้นไว้ คือ การดำรงความยุติธรรมด้านกฎหมาย การออกกฎหมายที่เป็นธรรมสำหรับการครอบครองหรือการซื้อขายที่ดินที่เป็นเอกสิทธิ์ของชนเผ่าเชื้อสายอินเดียน การสนับสนุนการค้าขาย การสนับสนุนโครงการอนุรักษ์หรือการพัฒนาวัฒนธรรมดั้งเดิม ให้ประธานาธิบดีเป็นผู้มีอำนาจเต็มในการจัดหาสาธารณูปโภค และเป็นผู้ชี้ขาดในกรณีละเมิดสิทธิอันชอบธรรมของชนเผ่าเชื้อสายอินเดียน

     มาตรการดังกล่าวนำไปสู่การปฏิบัติจริง เช่น การจัดตั้งกลุ่มอาสาเพื่อถ่ายทอดวิทยาการด้านเกษตรกรรม เช่น การจัดทำโรงสีข้าว การทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ การถ่ายทอดความรู้ด้านธุรกรรมเพื่อการค้าขายระหว่างกัน การอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุ รวมทั้งการจัดทำกฎหมายการบริหารจัดการส่วนท้องถิ่นสำหรับพลเมืองเชื้อสายอินเดียนดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในรัฐต่างๆ เป็นต้น ปัจจุบันพลเมืองเชื้อสายอินเดียน มีการรวมตัวเพื่อทำธุรกิจ มีบริษัทหรือผู้ประกอบการมากกว่า 45,000 บริษัท กระจายตัวอยู่ในรัฐต่างๆ โดยเฉพาะรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นฐานใหญ่ที่สุดของผู้ประกอบการ ตามด้วยรัฐโอคลาโฮมา และรัฐเท็กซัส ธุรกิจส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง การซ่อมแซม ไปจนถึงธุรกิจบริการขนาดเล็ก เช่น การซัก อบ รีด เป็นต้น

     ขอเสริมเรื่องราวของชนเผ่าเชื้อสายอินเดียน Muskogee ในรัฐโอคลาโฮมา ที่มีจำนวนประชากรประมาณ 760,000 คน มากเป็นอันดับที่ 4 ของพลเมืองเชื้อสายอินเดียนทั้งประเทศ มีการรวมตัวและกิจกรรมต่างๆสร้างฐานะที่มั่นคงให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน รัฐบาลกลางออกกฎหมายเพื่อการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเฉพาะการครอบครองที่ดิน ก่อนที่จะจัดตั้งรัฐโอคลาโฮมา ในปี 2450 โดยกำหนดให้พลเมืองชนเผ่า Muskogee มีเขตการปกครองแบ่งเป็น 8 เขตการเลือกตั้ง หรือ 11 เขตการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีผู้บริหารที่เลือกจากชนพื้นเมืองดูแลด้านการบริหารควบคู่กับผู้นำที่แต่งตั้งจากส่วนกลาง ชุมชนมีแผนงานพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและการศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษาโดยการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยโอคลาโฮมา มีมูลนิธิต่างๆ ช่วยระดมทุนเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรม กล่าวได้ว่ามีความพร้อมในทุกด้านเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับความเป็นพลเมือง อเมริกันอินเดียน 

     ชาว Muskogee อนุรักษ์เทศกาลต่างๆและเปิดการแสดงทั่วประเทศ เช่น การร้องเต้น ที่เรียกว่า Turtle Shell Dance มีทั้งชายและหญิง สังเกตว่านักแสดงมีรูปร่างขนาดจัมโบ้ทั้งนั้น การเต้นและการร้องไม่เร้าใจเหมือนหมอลำบ้านเรา จะเป็นการเต้นแบบรำวงทั้งชายและหญิงพร้อมร้องเพลงไปด้วย ท่าเต้นคือการขยับขาและเท้าเพื่อเขย่ากระบอกที่ทำด้วยโลหะภายในใส่ก้อนกรวดไว้ เมื่อออกแรงกระแทกตามจังหวะจะมีเสียงให้จังหวะเพลง ชุดเต้นรำที่น่าตื่นเต้นกว่าคือการแสดงที่นักร่ายรำใส่ถุงตาข่ายที่มีกระดองเต่าเจาะรูภายในมีก้อนกรวดใส่ไว้เพื่อให้เกิดเสียงเวลาเต้นรำ ที่น่าสนใจกว่าท่าร่ายรำ คือ กระดองเต่าขนาดเท่าฝ่ามือไม่น้อยกว่า 10 กระดอง ที่เจาะรูใส่ไว้ในถุงตาข่ายผูกรอบขาทั้งสองข้างของผู้เต้นรำนั้นไม่ธรรมดาทั้งน้ำหนักและที่มาของการได้กระดองเต่า (ในงานมีนิทรรศการเครื่องแต่งกายต่างๆ ภาพเขียน ขนมหวานขบเคี้ยว รวมทั้งกระบอกโลหะใส่ก้อนกรวด และถุงตาข่ายใส่กระดองเต่า น่าประหลาดใจว่ามีผู้ให้ความสนใจจำนวนน้อยสำหรับ ถุงตาข่ายใส่กระดองเต่า ทั้งๆ ที่ดูสยองอย่างยิ่งว่าได้มาจากที่ไหนอย่างไร เพราะเต่าอายุยืนมาก หรือว่าเข้าตำรา ฆ่าเต่าเพื่อเอากระดอง)

            ย้อนกลับมาดูชนเผ่าที่บ้านเราบ้าง ยังมีเรื่องราวที่เราต่างต้องทบทวนว่าจะทำอย่างไรให้ชุมชนเข้มแข็ง ผู้คนอยู่ร่วมกันและใช้ทรัพยากรร่วมกันโดยปราศจากการแก่งแย่งและอคติต่อกัน เรามีชนเผ่ามราบี ตองเหลือง ปะหล่อง กะเหรี่ยงอุรักราโว้ย ไทยทรงดำ และอื่นๆ ที่ยังอ่อนแอต่อวัฒนธรรมกระแสหลัก มีผลทำให้การดำรงชีพของชนกลุ่มน้อยเป็นไปได้ยาก บางครั้งสังคมต้องมานั่งตีความว่าการกระทำเช่นไรละเมิดกฎหมายหรือเป็นภัยต่อความมั่นคง เราคงไม่วาดฝันให้ทุกอย่างเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงเพียงช่วงเวลาสั้นๆ อย่าลืมว่าชนพื้นเมืองเชื้อสายอินเดียนในอเมริกาต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมมาตลอดเวลากว่า 200 ปี  แต่สิ่งที่จะทำให้ความเป็น ‘พลเมือง’ เพื่อความเท่าเทียมกันนั้นเป็นสิ่งที่ควรทบทวน เช่น การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน ที่ดินทำกิน การอนุรักษ์วัฒนธรรมที่ไม่ถูกนำเสนอ ในเชิงธุรกิจจนละเลยความรู้สึกและ
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

 

เครื่องแต่งกายประจำเผ่า Muskogee

 

การแสดงของชนเผ่า Muskogee จากรัฐโอคลาโฮมา

 

 

Since 25 December 2012